Passive
ประโยค (Sentence) คือข้อความที่เอ่ยมาแล้วเข้าใจได้กระจ่างชัดว่า ประธาน แสดง กริยา อะไร
เมื่อใด ถ้ากริยานั้นต้องมีกรรม (Transitive Verb) ก็ต้องมีกรรมระบุในประโยคด้วย
เช่น
·
เขา
เดิน
He walked
He walked
เขา
เป็นประธาน (Subject)
เดิน
เป็นกริยาไม่ต้องการกรรม (Intransitive
Verb) เป็นอดีตกาล (Past tense)
·
เรา
กิน มันฝรั่ง
We eat potatoes
We eat potatoes
เรา
เป็นประธาน (Subject)
กิน
เป็นกริยาต้องมีกรรม (Transitive
Verb) เป็นปัจจุบันกาล (Present Tense)
ทั้ง 2 ประโยคข้างต้นนี้
มีประธานเป็นผู้กระทำทั้งสิ้น (แต่จะอยู่ในรูป tense อย่างใด ก็สุดแท้แต่เวลาที่ต้องการบ่งชี้)
เราเรียกโครงสร้างของประโยคชนิดนี้ว่า กรรตุวาจก (Active Voice) ลองสังเกตประโยคต่อไปนี้ดูบ้าง
·
Mangoes are
eaten
มะม่วง ถูกกิน
มะม่วง ถูกกิน
มะม่วง
เป็นประธาน (Subject)
ถูกกิน
เป็นกริยา (Present Tense)
ประธานของประโยคคือ Apples ไม่ได้ทำกริยา กิน แต่ในทางตรงกันข้าม ประธานกลับเป็นฝ่ายถูกกระทำ
·
The letter was
read yesterday
จดหมาย ถูกอ่าน เมื่อวานนี้
จดหมาย ถูกอ่าน เมื่อวานนี้
จดหมาย
เป็นประธาน (Subject)
ถูกอ่าน
เป็นกริยา (Past Tense)
ในทำนองเดียวกันกับประโยคแรก
จดหมายซึ่งเป็นประธานของประโยคไม่ได้ เป็นผู้อ่าน แต่กลับเป็นสิ่งที่ถูกอ่านโดยประธาน
ทั้ง 2 ประโยคหลังนี้ มีประธานเป็นผู้ถูกกระทำ โครงสร้างเช่นนี้เรียกว่า กรรมวาจก
(Passive Voice)
วิธีการแปลประโยค passive ให้เป็นภาษาไทย
|
สำหรับโครงสร้างแบบ Passive Voice จะแปลว่า ถูกกระทำ เป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งแปลว่า ได้รับการกระทำนั้น ดูจะเหมาะกว่า เช่น
·
The most
valuable ring was stolen . (by someone)
แหวนวงที่มีราคามากที่สุดถูกขโมย ไป (ไม่ต้องระบุผู้กระทำเพราะไม่รู้แน่ชัด)
แหวนวงที่มีราคามากที่สุดถูกขโมย ไป (ไม่ต้องระบุผู้กระทำเพราะไม่รู้แน่ชัด)
· Mrs. Brown was promoted . (by someone)
นางบราวน์ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง (ไม่ได้ระบุว่าโดยใคร แต่น่าจะสันนิษฐานได้เองว่าจากผู้มีตำแหน่งสูงกว่าตัวบางบราวน์เอง)
นางบราวน์ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง (ไม่ได้ระบุว่าโดยใคร แต่น่าจะสันนิษฐานได้เองว่าจากผู้มีตำแหน่งสูงกว่าตัวบางบราวน์เอง)
·
The man was
named . The Greatest Inventor (by someone)
ผู้ชายคนนั้นได้รับกาขนานนามว่าเป็น นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ (น่าจะเป็นจากคนที่พิจารณาเรื่องนี้ หรืออาจจากคนทั่ว ๆ ไปก็ได้)
ผู้ชายคนนั้นได้รับกาขนานนามว่าเป็น นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ (น่าจะเป็นจากคนที่พิจารณาเรื่องนี้ หรืออาจจากคนทั่ว ๆ ไปก็ได้)
วิธีเปลี่ยนประโยค active ให้เป็นประโยค passive ใน tense และ กริยาช่วย Modalต่างๆ
|
ในลำดับต่อไปนี้ก็มาถึงจุดสำคัญอีกประการหนึ่งคือ
ไม่ว่าในประโยคหนึ่ง ๆ นั้น
1. ประธานจะเป็นผู้กระทำ หรือถูกกระทำ
2. จะระบุผู้กระทำ (by someone) หรือไม่ก็ตาม
2. จะระบุผู้กระทำ (by someone) หรือไม่ก็ตาม
โครงสร้างแบบ Passive Voice ก็ต้องระบุกาลเวลาของกริยา (tense) ด้วยเหมือนกับในประโยคภาษาอังกฤษทั่ว ๆ ไป
·
รูปของ Active Voice คือ S
+ V
·
รูปของ Passive Voice คือ S
+ V to be + V.3
โครงสร้าง
Verb to be +
V.3 (Past Participle) จะไม่เป็นปัญหาเลยถ้า
1. นักเรียนสามารถท่องจำกริยาช่องที่ 3 ได้
2. นักเรียนรู้หลักการกระจาย Verb to be ไปตาม Tense ต่างๆ
2. นักเรียนรู้หลักการกระจาย Verb to be ไปตาม Tense ต่างๆ
แต่เหนืออื่นใด
เวลาจะใช้ประโยคภาษาอังกฤษ ขอให้นักเรียนถามตนเองซ้ำหลายๆ ครั้งก่อนว่า
ประธานในประโยคเป็นผู้กระทำ หรือเป็นผู้ถูกกระทำกันแน่
เมื่อยืนยันกับตนเองได้ว่าประธานเป็นผู้ถูกกระทำอย่างแน่นอน จึงค่อยผูกประโยคตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1 วางประธานไว้หน้าประโยค เช่น
A boy
A boy
2 ปรับคำกริยาให้เป็น V.3 อยู่หลัง V.
to be
3 กระจายรูป Verb to be ไปตาม Tense ที่ควรจะเป็นและวางหน้ากริยา Past participle
ถ้ากริยาในประโยคเป็นกริยาช่วย
(Auxliary
Verbs) ต่าง ๆ ก็เพียงแต่นำ be และ Past participle มาวางต่อข้างท้าย
ดังนี้คือ
เช่น
The office
ought to be opened .
English can be spoken by any Singaporean.
The rules have to be observed .
English can be spoken by any Singaporean.
The rules have to be observed .
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น