One way
ticket
บทที่ 2 : South
for the Winter
ฉันไม่เคยอยู่ประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นเวลานาน
ๆ เพราะมักจะน่าเบื่อ
ผมชอบที่จะย้ายไปดูสถานที่ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผม ที่ที่มีความแตกต่าง
เพราะช่วงเวลานั้นจะเป็นช่วงเวลาชีวิตที่ดีที่สุด เมื่อผมจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน ผมจะไปสมัครงาน เช่น
งานโรงแรม งานร้านอาหาร งานเก็บผลไม้
เพราะในยุโรปเราสามารถเลือกผลไม้ที่ดีที่สุดและมีปริมาณมากที่สุดของปี
ซึ่งคุณจะต้องอยู่ในประเทศที่มีอากาศที่เหมาะสมการทำงานนั้นมันเป็นเรื่องที่ยาก
แต่เงินที่ได้จากการทำงานนั้นจะได้คุ้มค่ากับงานที่ทำ ผมชอบไปหางานทำทางทิศใต้ในช่วงฤดูหนาว เพราะผมจะได้รับความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์ แต่ทางเหนือทางยุโรปที่นั่นจะมีความหนาวเย็นมากในช่วงฤดูหนาว ในปี 1989
ปีที่แล้วผมอาศัยอยู่ในเมืองเวนิซ
ในช่วงเดือนตุลาคม
ผมได้ไปสมัครทำงานในโรงแรมรวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 3
สัปดาห์
แล้วผมก็ได้ย้ายไปทำงานทางทิศใต้
ในการเดินทางนั้นผมมักจะเดินทางโดยรถไฟ
เพราะมันเป็นความสามารถของผม
ผมชอบรถไฟ
ผมชอบการเดินทางโดยรถไฟมาก
ผมสามารถที่จะเดินบนรถไฟเป็นระยะทางที่ยาว
และในระหว่างทางที่เดินบนรถไฟนั้น ก็ได้เจอผู้คนมากมาย ผมเดินทางโดยรถไฟออกจากเมืองเวนิซ และจะเดินทางต่อไปที่เอสเต ผมได้ตั๋วในราคาถูกเพราะเป็นรถไฟขบวนที่ช้าสายโซเฟียในเมืองบิลแกเรีย
รถไฟขบวนนี้ใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานพอสมควรจนไปถึงยูโกสลาเวียและกว่าจะถึงเมืองที่ผมจะไปนั้นใช้เวลานานในการเดินทาง รถไฟขบวนนี้ใช้ระยะเวลาในการเดินทางวันครึ่งกว่าจะถึงจุดหมยที่ผมจะไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับผม
รถไฟขบวนซ้ายถึงเวลา 09.00 ในเช้าวันพฤหัสบดี ในสถานีมีผู้คนน้อยมากนี่มันเป็นครั้งแรก
แต่ในซาเกร็บผู้คนมากมายได้ขึ้นรถไฟขบวนนี้ มีหญิงสาว
2 คน
เดินไปตามทางและพวกเขาได้เดินผ่านตู้รถไฟที่ผมนั่งอยู่ พวกเขามองไปที่ประตู แต่พวกเขาไม่เดินเข้าไปด้านใน เมื่อผู้หญิงชราเดินเข้ามานั่งลงและเธอก็หลับไป หญิงสาว
2 คน
เดินกลับมาตามทางเดินและมองเข้าไปในตู่รถไฟตู้นั้นอีกครั้งหนึ่ง
และรถไฟขบวนซ้ายซาเลปและผมก็มองออกไปนอกหน้าต่างเป็นเวลานาน 10
นาที
แล้วผมก็หลับลงอีกครั้ง
เมื่อผมเปิดตาขึ้นอีกครั้ง หญิงสาว
2 คนก็นั่งอยู่ในตู่รถไฟตู้เดียวกับผมแล้วพวกเขามองผมด้วยตาที่เป็นมิตร แล้วผมก็พูดว่า “
สวัสดี ”
“ สวัสดี ”
พวกเขาพูด
“ พวกคุณเป็นคนอเมริกาใช่ไหม ?
” ผมถามพวกเขา หรือว่าเป็นคนแคนาดา ใช่ไหม
?
“ ใช่ค่ะ !
พวกเราเป็นคนอเมริกา
” หญิงสาวที่รูปร่างสูงกว่าตอบ และเธอก็ยิ้มให้ผม
“ คุณอายุ 23
ปีใช่ไหม ? คุณชื่อ ทอม
และคุณมีดวงตาสีฟ้า
และแม่ของคุณอาศัยอยู่ที่เมืองเบอร์อัม
สหราชอาณาจักรใช่ไหม ? ” หญิงสาวถามผม
“ คุณรู้เรื่องนั้นได้อย่างไร ”
ผมถาม
หญิงสาวทั้งสองคนก็หัวเราะ เธอมองไปที่พาสปอร์ตของผม ซึ่งมันอยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของผม
ผมเอาพาสปอร์ตออกมาจากกระเป๋าของผมและนำกลับมาไว้ในกระเป๋าผมอีกครั้ง “
แล้วคุณเป็นใคร ” ผมถาม หญิงสาวทั้ง
2
พวกเขาตอบผมว่า พวกเขาชื่อ “
เมลานีและแครอล
มาจาก Aos Angeles
สหรัฐอเมริกา
” พวกเขาบอกผมว่า “
พวกเขาชอบยุโรป ” พวกเรารู้จักสถานที่ต่าง ๆ
มากมายหลายสถานที่ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ , สเปน , ฮอลแลนด์ , เดนมาร์ก ,
เยอรมัน , ฝรั่งเศส ,
อิตาลี , ยูโกสลาเวีย และ
บัลแกเรียกรีซ
“ ผมกำลังเดินทางไป Bulgaria ในขณะนี้ ” ผมพูด “
ผมจะไปประมาณ 1 เดือน ”
แล้วผมจะเดินทางไปต่อทางทิศใต้ในช่วงฤดูหนา อาจจะไป
ไซปริส
หรือบางทีอจจะไปแอฟริกาเหนือ
“ โอ้ใช่ ?
” พวกเขาพูดว่า “
เรารักปัลแกเรีย
โซเฟียเป็นเมืองที่ดี
ที่มีความยอดเยี่ยม ”
“ คุณจะทำอย่างไรเกี่ยวกับเงิน ?
” ฉันถาม
“ ดี มันเป็นเรื่องดีที่คุณรู้ ”
แครอลยิ้ม “ บางครั้งเราได้รับงานเล็ก ๆ น้อย
ๆ นี่แหละคือเหตุผล
และมันก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณ
”
“ใช่ ! เข้ามา ”
เมลานีพูด “ บอกเราเกี่ยวกับตัวของคุณได้ไหม ?
”
“ ทอมวอลซ์มีตาสีฟ้าและแม่อาศัยอยู่ใน Burnham คุณกำลังทำอะไรกับชีวิตของคุณ ?
” hey ?
ดังนั้นผมจึงบอกพวกเขาว่า
พวกเขเป็นสาวที่ดี
พวกเขามีอายุมากกว่าผม 27 ปี แต่ผมชอบพวกเขา
เราได้พูดคุยและหัวเราะกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง ผมบอกเรื่องราวของผมให้พวกเขาฟังเป็นจำนวนมาก บางเรื่องเป็นเรื่องจริง
แต่พวกเขาหัวเราะและบอกว่าผมเป็นผู้ชายที่ดี ผมถามพวกเขาเกี่ยวกับบัลแกเรีย เพราะ
ผมไม่ทราบว่าประเทศนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
พวกเรารู้ดีเรื่องของโซเฟีย
พวกเขาพูดว่า “ สวัสดี ! แครอล ” เมลานีกล่าวว่า “ เขากำลังอยู่ใน Bela
Palanka ในวันหรือสองวัน แต่จะไปโซเฟียสุดสัปดาห์นี้และพบกับทอมมี่ เราสามารถพบเขาในคืนวันเสาร์ที่โรงแรม Marmara ”.
“ ใช่ !
มันเป็นโรงแรมที่ดี ” แครอลบอกผมว่า “
ที่นั่น
ราคาถูก แต่ดี คุณคิดอย่างไรกับทอม
“ ยิ่งใหญ่ !
” ฉันพูดว่า ลองทำแบบนั้นดูก็ได้
รถไฟเดินทางช้ามาก ๆ พวกเราไปถึง Belgrade เวลา 6
นาฬิกาในตอนค่ำ
และมีผู้คนมากมายออกจากขบวนรถไฟ
มีเพียงผมและหญิงอยู่ในขบวนรถไฟ
ตำรวจเดินมาและก็มองไปที่ตั๋วรถไฟของพวกเราแล้วเขาก็เดินกลับไป
แครอลมองไปที่เมลานี “
สวัสดี ! เมล ”
เธอพูดว่า “ ทำไมคุณไม่ไปและทอมไปพร้อมกับเขาไปที่ร้านอาหารบนรถไฟ ?
” “ ผมยังไม่หิว และผมต้องการนอนเป็นเวลา 1
ชั่วโมง
” ผมบอกหญิงสาว
“ อาหารราคาแพงน่ะบนรถไฟ ”
ผมพูด “ ผมไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อมันในขณะนี้ ”
“ ผมกำลังจะเดินทางไปทำงานในโซเฟีย ”
ผมบอกหญิงสาว
“ โอ้ว !
ทอม ” เมลานีพูด “
ทำไมคุณพูดกับพวกเราแบบนั้น
” “ แล้วทำไมคุณไม่บอกเราล่ะ ?
” เมลานีถามผม
“ เราตกลงค่าใช้จ่ายในสัปดาห์นี้ เราสามารถซื้ออาหาร ”
หญิงสาวพูด
“ แน่นอนว่าเราสามารถซื้ออาหารได้ ”
แครอลกล่าวว่า “ เราสามารถทำมันได้ ”
และเธอมองในโซเฟียของเรา
“ เราสามารถพาคุณไปร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมือง มันเป็นสถานที่ที่ดี พวกเราชอบมัน
”
“ สิ่งที่ฉันสามารถพูดออกมาได้คือ ?
ผมหิว
พวกเขามีเงินเพียงพอแต่ผมมีเงินไม่เพียงพอ
ดังนั้นเมลานีและผมไปที่ร้านอาหาร
เมื่อเรากลับมาแครอลก็คงยังนั่งอยู่คนเดียวในขบวนรถไฟ
เมลานียกเท้าของเธอไปวางบนที่นั่งและนอนลงไป ที่นิสมีคนมากมายขึ้นบนรถไฟ และมีชายแก่สองคนเดินเข้ามาในตู้รถไฟของผม พวกเขามองที่เท้าของเมลานีบนที่นั่ง และพูดคุยกันเสียงดัง แครอลหัวเราะและเมลานีลืมตาขึ้นและลุกขึ้นนั่ง ”
“ เราเกือบได้ยิน ”
เธอถามแครอลและมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ ใช่ !
” ประมาณครึ่งชั่วโมงผมก็คิดว่า
“ ทำไมคุณมาที่ Bela
Palanka ? ” ผมถาม
“ อะไรที่คุณกำลังจะทำที่นั่น ?
” ผมถาม
เมลานียิ้ม “
หาโรงแรมราคาถูกพบคนที่เมืองมากมาย ”
“ คุณรู้ ”
“ เพียงวันหรือสองวัน ”
แครอลกล่าวว่า “ แต่ไม่มีอะไรที่นั่น ”
“ โอ้ดีที่คุณไม่เคยรู้เลยว่าที่นั้นเป็นอย่างไร ”
เมลานีหัวเราะ “ แล้วพบกัน ”
“ ในโซเฟียใช่ไหม ?
” ในคืนวันเสาร์
“ โรงแรมบาร์มารา ,
โอเค ! แปดโมง ”
แครอลพูด
“ อย่าลืมในขณะนี้ !
”
“ ตกลง !
มันเป็นเรื่องที่ดี ” ผมพูด “
แล้วเจอกัน ”
รถไฟมาถึง Bela Palanka
และหยุดทั้งสองสาว
ได้ออกมายืนอยู่บนชานชะลา
พวกเขายิ้มให้ผมผ่านทางหน้าต่าง “ วันเสาร์ แปดโมง
” เมลานีตะโกน
“ ตกลง ” ผมพูด
พวกเขาไม่สามารถได้ยินผมเพราะเสียงในสถานีดังมาก
พวกเขายิ้มอีกครั้งแล้วหยิบกระเป๋าของพวกเขาและเดินออกไป ผมจะมีช่วงเวลาที่ดีในโซเฟีย ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นแบบนั้น
รถไฟอยู่ที่ยูโกสลาเวียและเข้าไปในบัลแกเรีย เวลา 02.00 ในตอนเช้า จากนั้นรถไฟหยุดที่ข้างหมู่บ้าน ผมจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร ผมกินแอปเปิ้ลและมองออกไปนอกหน้าต่าง
ทันใดนั้นมีตำรวจบนรถไฟจำนวนมาก ทุกคนขึ้นบนรถไฟนั่งลงและเริ่มมีการสนทนาขึ้น
“ เกิดอะไรขึ้น ?
” ผมพูดในอิตาลีกับชายชราที่นั่งถัดจากผม
“ ผมไม่ทราบ ”
เขากล่าวว่าในอิตาลีไม่ดี
“ บางทีพวกเขากำลังมองหาใครสักคน เหมือนกับว่า
ตำรวจจะพาบางคนออกจากรถไฟ ”
จากนั้นตำรวจสองนายเขามาในตู้รถไฟของเรา เขามีรูปร่างผอมสูงและมีไขมัน
พวกเขามองไปที่ทุกคน
และบอกให้ทุกคนระวังตัว
และพวกเขาก็มองมาที่ผมอีกครั้ง
“ ได้โปรดมากับพวกเรา ”
ตำรวจที่อยู่ไกลพูด
“ ทำไม ?
เกิดอะไรขึ้น ? ”
“ และนำกระเป๋าของคุณมาด้วย ”
ตำรวจพูดกับผม
ผมเริ่มที่จะถามคำถาม แต่ตำรวจไม่ฟัง
คำถามจากชายหนุ่มผมยาบ ดังนั้นผมจึงอยู่เงียบ ๆ สงบ และหยิบกระเป๋าของฉันและไปกับพวกเขา
ในสถานีที่มีตำรวจจำนวนมาก และบางคนมากับรถไฟ
พวกเขาทั้งหมดคือคนที่ผมเห็นบางคนน่ากลัวบางคนน่าเบื่อ
ตำรวจมองในกระเป๋าของทุกคนแล้วทุกคนก็กลับไปที่รถไฟ
ตำรวจสองนายพาฉันไปที่โต๊ะ “
หนังสือเดินทางของคุณ
? ได้โปรด ”
ตำรวจพูดว่า
เปิดกระเป๋าของคุณ
พวกเขามองไปที่หนังสือเดินทางของฉัน
และฉันเปิดกระเป๋าของฉัน
มีตำรวจผมแกงที่นั่งที่โต๊ะถัดไป คือ
เขามีใบหน้าที่ดี
ดังนั้นฉันยิ้มให้เขา
และเขาก็ยิ้มกลับมาให้ฉัน
“ Aaah ! ” ตำรวจพูดว่า
เสื้อทั้งหมดที่สกปรกของฉันและเสื้อผ้าที่อยู่ในกระเป๋าของฉันออกมาวางบนโต๊ะตำรวจ
ตำรวจหยิบกระเป๋าของฉันและหันไปยังโต๊ะออกมาจากกระเป๋าของฉัน และเทลงหลังจากที่เก็บของเสร็จ พบว่ามีเงินดอลลาร์ในกระเป๋าจำนวนมาก
ปากของฉันเปิดและมันยังคงเปิดค้างอยู่ ฉันตกใจจนพูดไม่ออก ผมหันไปเห็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง และมีตำรวจมากมายหลายคนวิ่งไปวิ่งมาหน้าโต๊ะของพวกเรา และมีตำรวจยืนอยู่ข้างหลังผม “
50,000 , 100,000
, 150,000 นี่คือ 200,000 ดอลลาร์อยู่นี่ ”
ตำรวจร่างสูงพูด “ อะไรเป็นสิ่งที่น่าสนใจในกระเป๋า ?
” ตำรวจร่างสูงถามทอมวอลซ์
ผมดีใจที่เสียงของผมกลับมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว “
แต่มันไม่ใช่กระเป๋าของผม
” ผมตะโกนตอบตำรวจ
ตำรวจร่างใหญ่ยิ้มอย่างมีความสุข ตำรวจพูดว่า
“ ดี ”
มันมีชื่อของคุณ
ดู !
ดังนั้นผมจึงมองและแน่นอนว่ามีชื่อของผม
ดังนั้นเงิน 200,000 ดอลลาร์ นั้นมาอยู่ในกระเป๋าของผมได้อย่างไร ?
“ คุณไม่สามารถนำเงินดอลลาร์เข้ามาในประเทศได้ ”
ตำรวจร่างใหญ่พูด
เขามีผมสั้นสีเทา และตาสีดำเล็ก ๆ เขาได้มีรอยยิ้มครั้งเดียว
“ แต่ผมไม่ได้นำพวกเขา ”
ผมตอบอย่างรวดเร็ว “ พวกมันไม่ใช่เงินของผม !
” ผมไม่เคยเห็นมันมาก่อนในชีวิต มีเสียงดังอยู่ในสถานี ผมมองออกไปข้างนอกหน้าต่างและเห็นรถไฟขบวนที่ผมนั่งมาก็เริ่มที่จะเคลื่อนตัว “
เฮ้ ” ผมตะโกน “
นั่นเป็นรถไฟของผม ” ตำรวจร่างสูงหัวเราะ มันเป็นวันที่ดีสำหรับเขา “
โอ้ไม่ ! ” เขาพูด “ คุณไม่ได้กลับไปบนรถไฟ คุณอยู่ที่นี่กับเราในประเทศที่สวยงามของพวกเรา ”
เขายิ้มอย่างมีคามสุข
ดังนั้นผมจึงไม่ได้ไปโซเฟียในวันเสาร์
ผมมีความสุขมากเกี่ยวกับการที่ผมอยากที่จะพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ
กับเมลานีและแครอล
ให้พวกเขาตอบคำถามผม 1 หรือ 2
คำถาม ว่า “
คุณเป็นผู้ชายที่ดีทอม
เห็นคุณในโซเฟีย ” OK ผมจะพาคุณไปร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมือง
ใช่ ! มันเป็นเรื่องที่ดี
และผมไม่เคยไปไซปรัสหรือแอฟริกาเหนือในช่วงฤดูหนาว “
โอ้ว ! ดี ” ฉันอยู่และเรียนรู้
มันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายในชีวิตสำหรับคนทุกคน
แต่มันเป็นความอบอุ่นในฤดูหนาวและอาหารที่ไม่ได้เลวร้าย และฉันได้พบคนที่น่าสนใจ มีชายคนหนึ่งมาจากจอร์เจียสมัยก่อน เขาชื่อ
บอริส
เขามาจากสถานที่ที่มีทะเลสีดำ
เขาเป็นผู้ชายที่ดี
เมื่อพวกเราออกจากที่นี่
เขาและผมจะไปออสเตรเลียกัน
บางทีก็ไปบริสเบนหรือซิดนีย์
เราจะไปทำงานบนเรือเพื่อเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในปีถัดไปน่าจะเป็นเรื่องที่ดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น