Learning Log 11
(out
class)
การแปลงานจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยนั้น
มีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับเรื่องไวยากรณ์พื้นฐาน grammar ซึ่งจะประกอบด้วยกันหลาย ๆ
เรื่อง ซึ่งสำหรับวิชาภาษาอังกฤษนั้น ไวยากรณ์
grammar ได้เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญที่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งในส่วนของเรื่องไวยากรณ์ grammar นั้นจะมีประโยชน์ต่อการแปลภาษาอังกฤษเพราะเป็นการเชื่อมโยงไวยากรณ์ grammar สู่การแปลภาษาอย่างมีหลักการ มีภาษาที่สละสลวย
และภาษาที่ชัดเจนเข้าใจความหมายได้ง่ายและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ grammar ดังนั้นในส่วนต่อไปนี้เราจะศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง Adverb
Clause เพราะเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความจำเป็นในการนำไปใช้ ในการแปล
เราจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะของ
Adverb Clause และประเภทของ Adverb
Clause ว่ามีกี่ประเภทอะไรบ้าง แล้วแต่ประเภทนั้นมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เราจะสามารถนำความรู้เรื่อง Adverb
Clause มาเชื่อมโยงไปสู่การแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยที่เราควรแปลให้ผู้อ่านมีความสนใจและเมื่อแปลออกมาแล้วจะได้ภาษาที่สละสลวยแบะเมื่อผู้อ่านอ่านแล้วทำให้เกิดความเข้าใจและผู้อ่านเกิดความประทับใจในการอ่าน
และจะอ่านง่ายแปลชิ้นนั้นด้วยความเข้าใจที่ชัดเจนและถูกต้อง และผู้อ่านจะมีความสุขกับการอ่านอีกด้วย
Adjective Clause
คือ
ประโยคที่ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์คือ
ขยายคำนาม หรือสรรพนาม ลักษณะของ
Adjective Clause จำนำหน้าด้วยคำเชื่อม (Connectives) 2 ชนิด คือ
(1)
Relative Pronoun
ได้แก่ who
, whom ,
that , which
, whose
(2)
Relative Adverb
ได้แก่ when
, where , why
-
The man who sits
next to me
never spoke to me.
-
The book which is
written in German
is difficult and
Goring.
-
Teachers whose classes are
interrelating have many
students.
-
This is the
school where I
used to work.
สำหรับเรื่อง Adjective Clause
เราก็ได้เรียกกันว่าเป็นอนุประโยคอีกประเภทหนึ่ง ที่เราต้องเรียนรู้ เมื่อเราได้ทบทวนเรื่อง Adjective Clause
กันแล้วเราก็มาเรียนรู้ใน
เรื่องของ
Adverb Clause
กันต่อ
เพราะทั้งสองเรื่องนี้จะทำให้เราสับสนเป็นอย่างมากถ้าเราไม่ทำความเข้าใจได้อย่างถูกต้อง
Adverb Clause คือ ประโยคที่ทำหน้าที่เหมือน Adverb
ขยายกริยา
ขยายคำคุณศัพท์และขยายกริยาวิเศษณ์ที่อยู่ในประโยคอื่นได้
-
She went
home because she has
a fever.
-
He
treats us as if
we were his
children.
Adverb
Clause จะแบ่งออกเป็นได้ 9
ชนิด คือ
(1)
Adverb
Clause of time
คือ ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยาเพื่อแสดงเวลา เช่น when
, whenever ,
while , before
, after ,
as soon as
, since ,
until
-
As it
was late ,
we went home.
-
I
will wait here until you
allow me to
come in.
(2)
Adverb
Clause of Place
คือ
ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยาเพื่อบอกสถานที่ เช่น where
, wherever
-
You may go
wherever you
want.
-
She hid
her money where nobody could
find it.
(3)
Adverb
Clause of Manner
คือ
ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยาเพื่อแสดงอาการ เช่น as
, as if
, as though
-
He
acted as if
he were a
millionaire.
-
She wrote
the letter as she
was told.
(4)
Adverb
Clause of Comprison
คือ
ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยาวิเศษณ์หรือขยายคำคุณศัพท์ เพื่อแสดงการเปรียบเทียบ เช่น as…as
, so…as , than
-
Can you
send me your
application form as
soon as
possible ?
-
Jane didn’t
do so
well in the
exam as
she had hoped.
(5)
Adverb
Clause of Caurse
or Reason
คือประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยาหรือคุณศัพท์เพื่อแสดงสาเหตุหรือเหตุผล เช่น because
, sinces ,
as , for
-
They moved
to London because they
wanted to stay
with their parents.
-
She ran
away for she
was afraid.
(6)
Adverb
Clause of Purpose
คือ
ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยาเพื่อแสดงความมุ่งหมายหรือแสดงวัตถุประสงค์ เช่น so
that , in
order that
-
She works
hard so that
she can get
more money for
her children.
-
He
come here in order
that
he night see
his boss.
(7)
Adverb Clause
of Result
คือ ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยา ขยายคำคุณศัพท์ หรือขยายคำวิเศษณ์ เช่น so…that
, such…that
-
New care
are so
expensive that
some employees buy
used ones.
-
She is such
a polite girl that
everybody likes for.
(8)
Adverb Clause
of Condition
คือ
ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยาเพื่อแสดงเงื่อนไข เช่น if
, unless ,
provided that ,
on condition that
-
If she
comes , I
will here the
truth.
-
Unless he
works harder ,
he will fail.
(9)
Adverb
Clause of Concession
คือ ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยา หรือ
ขยายคำคุณศัพท์เพื่อแสดงการยอมรับ
เช่น though
, although ,
however , whatever
-
Although she
is fat ,
she can run
quickly.
-
Whatever help
you give them
, they will
never thank you.
สำหรับ Adverb Clause
สามารถสรุปใจความสำคัญของประเด็นความรู้หลัก ๆ
ที่สำคัญได้ว่า Adverb Clause
จะมีหน้าที่เหมือน Adverb คือ กริยากริยาวิเศษณ์จะเป็นคำเดียว แต่ adverb clause
นั้นจะเป็นประโยคย่อยซึ่งจะเป็นประโยคที่ไม่สมบูรณ์ หรือเราเรียกว่าอนุประโยค ซึ่งจะมีคำที่บ่งบอกให้รู้ว่านั้นเป็นประโยค
Adverb
clause ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 9
ประเภท
ซึ่งแต่ละประเภทนั้นก็จะใช้ในบริบทที่แตกต่างกัน
และใช้คำต่างกันอีกด้วยในการที่เราศึกษาเรื่อง Adverb
Clause นั้นก็เป็นการฝึกทักษะอีกทักษะหนึ่ง นั่นก็คือ
ทักษะการอ่านนั่นเอง
ในชีวิตประจำวันของเรานั้นจะมีการสื่อสารที่สื่อสารทั้งทางด้านคำพูดท่าทางและอื่น
ๆ อีกมากมาย
ซึ่งเราควรจะมีการฝึกทักษะให้มีความเข้ใจ
ซึ่งทักษะที่มีความสำคัญอีกทักษะหนึ่งก็คือ ทักษะการฟัง
ซึ่งในการฝึกทักษะการฟังนี้
ดิฉันจะฝึกทักษะการฟังโดยการฟังเพลงสากล
ชื่อเพลง One
more night ร้องโดย Maroon
5 อยู่ในอัลบั้ม Overexposed ซึ่งดิฉันได้ฟังเพลงนี้ 3 – 4
รอบ
รอบแรกจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
แต่พอเปิดฟังหลาย ๆ
รอบก็ทำให้เราเกิดความเคยชินฟังคำศัพท์บางคำได้รู้เรื่องมากขึ้น ซึ่งในเนื้อเพลงจะเป็นภาษาที่ฟังแล้วค่อนข้างเข้าใจยาก แต่เราก็จะได้เรียนรู้คำศัพท์ยาก ได้เรียนรู้สำนวน ได้เรียนรู้ประโยคในรูปแบบ tense
ต่าง ๆ และที่สำคัญได้ฟังเสียงสำเนียงจากเจ้าของภาษา
ซึ่งในเนื้อเพลงจะมีช่วงที่ดิฉันชอบมาก คือ
บทนี้เป็นบทที่มีความหมายดี
But
baby there you
go again ,
there you.
Go again
making me love
you.
Yeah, I
shopped using me
head , using
my head let
itall go.
Got you
stuck on my
body , on
my body like
a tattoo.
And now
I’m feeling stupid
, feeling stupid
crowing back to
you.
ในบทนี้ก็จะมีคามหมายว่า
แต่ที่รัก เธอเอาอีกแล้ว เธอทำให้ฉันรู้สึกรักเธอขึ้นมาอีกแล้ว ใช่…
ฉันหยุดคิดเรื่องราวต่าง ๆ แล้วปล่อยให้มันผ่านไปดีกว่า รู้สึกว่าเธอนั้นเป็นส่วนหนึ่งของตัวฉัน ราวกับรอยสัก
และตอนนี้ … ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองโง่มาก
ๆ โง่ที่อยากคลานกลับไปหาเธอ
ซึ่งนอกจากจะได้เรียนรู้ความหมายของเนื้อเพลง
ยังได้เรียนรู้ความหมายของคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์ที่เราไม่คุ้นเคย เช่น
Rough = หยาบคาย
Throwing
= ขว้างปา
Slamming = กระแทก
Dysfunctional = จ้องจับผิด
Damn = แย่ ๆ
Stuck = ส่วนหนึ่ง
Tattoo = รอยสัก
Crawling = คลาน
Breath = ลมหายใจ
Probably = เกลียด
Guitty = ผิด
Hell = สุด ๆ
นอกจากนี้ได้รู้คำคามหมายของคำศัพท์แต่ละคำแล้วเรายังได้เรียนรู้สำนวนและความหมายของสำนวนนั้นอีกด้วย
Cross
my heart and
I hope to
die เป็นสำนวนที่มีความหมายว่า “สาบานจริง ๆ ให้ตายเถอะ”
เมื่อเราได้ฟังเพลงสากลและทำให้เราผ่อนคลายและได้เรียนรู้สำเนียงจากเจ้าของภาษาอีกด้วยและเราสามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกทักษะการฟังนำไปประยุกต์ใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
กับเจ้าของภาษาได้ด้วยความเคยชินและเจ้าของภาษาก็จะมีความเข้าใจในประโยคที่เราสนทนามากขึ้น
นอกจากดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังและการอ่านเรื่อง Adverb Clause
แล้ว
ดิฉันยังมีความสนใจในทักษะการอ่าน
คือ
ดิฉันได้สนใจอยากจะอ่านเรื่องสั้น
ซึ่งเรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นภาษาอังกฤษที่มีชื่อที่น่าสนใจ คือ
สมบัติล้ำค่าของคุณยาย (Priceless Treasure)
ซึ่งจะเป็นบทความภาษาอังกฤษที่มีความน่าสนใจของเนื้อหาและภาษาในการเขียน ซึ่งจะมีเรื่องย่อดังนี้ คือ
ตอนนี้ยายยังแข็งแรงอยู่
ยายให้สมบัติแก่เรา เป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด เพราะฉะนั้นให้จำคำของยายไว้
แล้วเก็บรักษาสมบัติที่ยายได้ให้เราไว้นี้ให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อในภายภาคหน้าจะได้เอาตัวรอดได้ยายมีความหวังดีแก่เราตลอดเวลา ถ้เราทำตามยายเราก็จะเจอแต่สิ่งดี ๆ ตลอดเวลา
ในเรื่องสั้นเรื่องนี้นอกจากจะได้เรียนรู้ความหมายของเรื่องย่อแล้วเรายังได้รู้ถึงการเขียนประโยค เพื่อบอกว่า
tense ไหนอีกด้วย
ซึ่งในเรื่องสั้นเรื่องนี้ผู้แต่งจะใช้ประโยคที่เป็นปัจจุบันกาล ส่วนมากจะเป็น
Present Simple tense คือ ในประโยคนั้นจะมีการใช้ V.1
เติม s หรือ es
ก็ได้ในกรณีที่ Sub เป็นเอกพจน์ และจะมีคำบอกเวลา เช่น everyday เป็นต้น และอีก
tense หนึ่งก็คือ Present Continuous
tense จะมีการใช้คำกริยาที่เติม -ing
ตามหลัง V. to
be และจะมีคำบอกเวลา เช่น in the
moment , now เป็นต้น
Ex.
- At this
moment I’m still
healthy.
-
I’m giving
you an invaluable
treasure.
-
I’m giving
to you.
-
May you
always be on
the moral path.
และในเรื่องสั้นเรื่องนี้จะมีคำศัพท์ที่เราไม่รู้มากมายหลายคำ คือ
Invaluable = ประมาณค่าไม่ได้
Treasure = สมบัติ
Spiritual = เกี่ยวกับจิตใจ
Virtrous = เกี่ยวกับศีลธรรม
Intentions = ความตั้งใจ
Ultimate = สุดท้าย
Benefits = ประโยชน์
Pursue = ทำให้ลุล่วง
Moral = ทางศีลธรรม
Determine = ค้นหาความจริงอย่างแน่วแน่
Transcendental = ดีกว่า
Honored = ความเคารพ , เกียรติ
Truthfulness = ความซื่อสัตย์
บทความสั้น ๆ
ภาษาอังกฤษนี้ เรื่อง Priceless Treasure
ตอน Brighness of
the sun เป็นบทคามสั้น ๆ
ที่แฝงไปด้วยความหมายดี ๆ
ที่มีคำสอน ให้เราได้คิดด้วย สอนให้เราทำบุญมาก ๆ ทำบุญให้มากกว่าการทำบาป สอนให้เรารู้จักปล่อยวางและสอนให้เราไม่เกลียดใคร ถ้าเราทำตามที่คุณยายสอนไว้ ในบทความเรื่องสั้นภาษาอังกฤษนี้ ก็จะทำให้เราดำเนินอยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างสงบและมีความสุขกับการใช้ชีวิตประจำวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น