Learning Log 9
(out
class)
สังคมไทยในปัจจุบันนั้นได้มีการติดต่อสื่อสารกับนานาประเทศเพื่อผลประโยชน์ในด้านต่าง
ๆ เช่น ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ
หรืออาจจะเป็นด้านสังคมและด้านอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งคนไทยจะต้องมีการติดต่อสื่อสารออกทางด้านต่าง ๆ คือ การฟัง
พูด อ่าน และเขียน
ซึ่งทักษะการฟังและการสนทนากับชาวต่างชาตินั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการสื่อสาร ทำไมเราต้องฝึกฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษ แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากเก่งภาษาอังกฤษกันทั้งนั้น
แต่ก่อนที่จะเก่งนั้นเราต้องมีการฝึกฝนในด้านของทักษะภาษาอังกฤษจนให้เกิดความคล่องแคล่วในการพูดภาษาอังกฤษซึ่งภาษาอังกฤษนั้นถือว่าเป็นภาษาที่สำคัญในการสื่อสารอีกภาษาหนึ่งก็ได้ว่าความคล่องแคล่วที่เกิดจากการฝึกฝนนั้น คือ
การที่เราสามรถพูดและเข้าใจภาษา
ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยที่เราไม่ต้องมานั่งแปลทีละคำ
ความคล่องแคล่วก็คือการที่เราสามารถพูดกับเจ้าของภาษาได้
โดยเราไม่เข้าใจในสิ่งที่พูดและตัวเค้าเองก็ฟังเราเข้ใจเช่นกัน
กุญแจสำคัญคือการฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษ การฟังบทสนทนานั้นจะช่วยให้เราทำความคุ้นเคยกับสำเนียงเจ้าของภาษา
นอกจากนี้เราจะได้เรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดทั่วไปด้วย สิ่งนี้หาได้ยากมากตามหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ
การฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษตนเองจะเป็นการเปิดโอกาสให้เราฝึกพูดตามไปด้วย ต่างจากการดูหนังภาษาอังกฤษที่อาจมีคำใช้ยาก ๆ
ซึ่งสำหรับคนไม่มีพื้นฐานมาดีพอ
แทนที่จะได้ฝึกการฟังกลับต้องมาคอยเปิด
Dictionary ตีความหมายเอาเอง
ซึ่งการเก่งภาษาอังกฤษให้ได้นั้นเราต้องฟัง “อย่างเข้าใจ” และ “อย่างต่อเนื่อง”
· ฟังอย่างเข้าใจ
ถ้าเราไม่เข้าใจ เราก็จะไม่เรียนรู้อะไรเลย
ที่เป็นสาเหตุที่ทำไมดูข่าวภาษาอังกฤษมากแค่ไหนก็ไม่ช่วยอะไรเลย เราไม่เข้าใจเพราะมันเร็วมากและยากเกินไป ถ้าเราไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็ยากที่จะเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดดได้หลายคนพยายามฝืนฝึกฟังภาษาอังกฤษที่ยากและซับซ้อน ทำให้พัฒนาได้ช้าพอสมควร ดังนั้นหลักการสำคัญคือ “ง่าย ๆ ”
· ฟังอย่างต่อเนื่อง
แค่เข้าใจไม่พอ
แต่ต้องฝึกฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องด้วย
ถ้าเราได้ยินคำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่แค่ครั้งเดียว ต้องลืมแน่ ๆ ถึงฟังไป 5 – 10 ครั้งก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี มันต้องผ่านหูนับครั้งไม่ถ้วนว่าเราจะซึมซับจดจำและเข้าใจได้ในทันทีที่ได้ยิน
แนวทางในการเพิ่มทักษะการฟังให้เกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้น คือ
(1)
แต่ละบทสนทนาภาษาอังกฤษมีความยาวประมาณ 5
นาที
ให้ฟังหนึ่งบทยาว ๆ ไป 1 สัปดาห์ วันละ 1
– 2 ชั่วโมง
(2)
แบ่งเวลาการฝึกระหว่างวันได้ เช่น
ตอนเช้า กลางวัน เย็น
ก่อนนอน ฟังช่วงละ 30
นาที
ยืดหยุ่นได้ตามใจชอบ
(3)
ฟังแล้วอ่านสคริปบทสนทนาด้วย เพราะจะช่วยการอ่านออกเสียงของเราได้ พอคล่องแล้วค่อยฟังอย่างเดียว
(4)
ต้องมีวินัยในการฝึกทักษะ พยายามทำทุกวันให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 – 2 ชั่วโมง
ซึ่งบทสนทนาที่ข้าพเจ้าใช้ในการฝึก
คือ The Wedding
Will และ Joe เป็นเพื่อนกันโดยที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมานาน เมื่อพวกเขาได้บังเอิญเจอกัน Will
ก็เล่าเรื่องในวันงานแต่งงานของเขาให้ Joe
ฟัง
ซึ่งในบทสนทนาบทนี้จะเป็นบทสนทนาภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างจะพูดสนทนากันเร็ว เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน
ในบทสนทนานี้จะไม่ใช้ภาษาที่เป็นทางการมากนัก แต่บทสนทนานี้เป็นบทสนทนาที่ดีในการฝึกฟัง
จากการที่ได้ฝึกฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษเรื่อง The
Wedding ทำให้ได้เรียนถึงเรื่องคำศัพท์ ที่ไม่รู้มาก่อน และได้เรียนรู้โครงสร้างประโยคแบบต่าง ๆ
รวมไปถึงการใช้ tense ในบทสนทนา
ข้าพเจ้าสามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกทักษะการฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษนำไปประยุกต์ใช้ในการสื่อสารกับชาวต่างชาติด้วยสำเนียงที่คล้ายคลึงกับเจ้าของภาษาและได้ฝึกออกเสียงให้เกิดความคล่องแคล่วขึ้น และยังสามารถนำความรู้ที่ได้จากการฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษนี้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องแคล่ว
และจะมีความสุขกับการสื่อสารสนทนากับชาวต่างชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น